NEGATIVE SEO คืออะไร มาทำความรู้จักกัน อัพเดทปี 2025

  • Home
  • SEO Marketing
  • NEGATIVE SEO คืออะไร มาทำความรู้จักกัน อัพเดทปี 2025
NEGATIVE SEO คืออะไร

NEGATIVE SEO คือการใช้กลยุทธ์ที่ไม่เป็นธรรมเพื่อทำลายการจัดอันดับของเว็บไซต์คู่แข่งในผลการค้นหาของ Google โดยการพยายามสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพต่ำ หรือทำให้เว็บไซต์ของคู่แข่งถูกมองว่าไม่ปลอดภัยหรือมีเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้ Google ลงโทษเว็บไซต์เหล่านั้น หรือแม้แต่ทำให้เว็บไซต์คู่แข่งสูญเสียอันดับในผลการค้นหาทั้งหมด

แม้ว่า SEO (Search Engine Optimization) จะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเพิ่มอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google โดยการปรับปรุงเนื้อหาภายในเว็บไซต์, การสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพ, และการทำให้เว็บไซต์เหมาะสมกับการค้นหาในเครื่องมือค้นหาทั่วไป แต่ในทางกลับกัน Negative SEO คือการใช้ เทคนิคมืด (Black Hat SEO) เพื่อทำลายการจัดอันดับของเว็บไซต์อื่นๆ โดยการใช้วิธีการที่ผิดกฎหมายและไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการทำ SEO ที่ถูกต้อง

ในบทความนี้เราจะมาพูดถึง Negative SEO คืออะไร, วิธีที่ใช้ในการทำ Negative SEO, และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์เป้าหมาย พร้อมทั้งเทคนิคในการป้องกัน Negative SEO ที่สามารถใช้ได้ในปี 2025


1. Negative SEO คืออะไร?

Negative SEO เป็นการทำ SEO ด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม เพื่อทำลายอันดับของเว็บไซต์ของคู่แข่งใน Google โดยปกติแล้ว, SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เพื่อเพิ่มอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google แต่ในทางกลับกัน, Negative SEO ใช้เทคนิคที่สามารถทำให้เว็บไซต์ที่เป็นเป้าหมายสูญเสียอันดับหรือถูกลงโทษจาก Google เนื่องจากการใช้ลิงก์ที่มีคุณภาพต่ำ, การใช้ลิงก์จากเว็บไซต์ที่เป็นสแปม, หรือการโจมตีด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์

ในกรณีที่ Negative SEO ถูกนำมาใช้ เว็บไซต์ของคู่แข่งจะต้องเผชิญกับ การสูญเสียอันดับ และ การถูกลงโทษจาก Google ซึ่งอาจเกิดจากการที่เว็บไซต์เหล่านั้นได้รับลิงก์ที่ไม่ปลอดภัย หรือมีการปรับแต่งที่ผิดกฎหมาย


2. วิธีการทำ Negative SEO

2.1 การสร้าง Backlinks ที่มีคุณภาพต่ำ

หนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ใช้ใน Negative SEO คือการสร้าง Backlinks ที่มีคุณภาพต่ำ หรือการสร้าง Link Farms ซึ่งเป็นการสร้างลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพหรือมีเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคู่แข่ง ลิงก์เหล่านี้จะถูกเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์เป้าหมายเพื่อทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งอาจทำให้ Google ลงโทษเว็บไซต์นั้นได้

การสร้าง Backlinks ที่มีคุณภาพต่ำอาจรวมถึงการซื้อ Backlinks จากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสแปม หรือการเชื่อมโยงลิงก์จากเว็บไซต์ที่ถูกลงโทษจาก Google ไปยังเว็บไซต์เป้าหมาย

2.2 การทำลิงก์เสีย (Broken Links)

Broken Link Building หรือการทำลิงก์เสียสามารถถูกใช้ในการทำ Negative SEO โดยการค้นหาลิงก์ที่เสียในเว็บไซต์ของคู่แข่ง และแจ้งให้ Google รู้ถึงลิงก์ที่ไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งอาจทำให้ Google ลงโทษเว็บไซต์นั้นๆ หากมีลิงก์เสียจำนวนมากในเว็บไซต์

การทำลิงก์เสียมักจะเกิดจากการค้นหาลิงก์ที่เสียในหน้าเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูง และติดต่อเจ้าของเว็บไซต์เพื่อให้พวกเขาลบลิงก์นั้นออก

2.3 การโจมตีด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์ (Hacking)

Negative SEO อาจรวมถึงการโจมตีด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์โดยการแฮกเว็บไซต์เป้าหมาย เพื่อเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของเว็บไซต์, ทำให้เว็บไซต์ช้า, หรือทำให้เว็บไซต์มีมัลแวร์หรือโค้ดอันตรายที่สามารถส่งผลให้ Google ลดอันดับเว็บไซต์ได้

การโจมตีด้านความปลอดภัยไม่เพียงแต่ทำให้เว็บไซต์มีการเข้าชมลดลง แต่ยังทำให้เว็บไซต์ถูกมองว่าไม่ปลอดภัยในสายตาของผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหา

2.4 การสร้างเนื้อหาซ้ำซ้อน (Duplicate Content)

การสร้าง Duplicate Content หรือการคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์ของคู่แข่งและนำไปโพสต์ในเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ อาจทำให้ Google สับสนในการจัดอันดับเว็บไซต์และอาจทำให้เว็บไซต์ที่เป็นเป้าหมายถูกลดอันดับลง

ในกรณีนี้, Google จะมองว่าเนื้อหาของเว็บไซต์เป็น Content Farming ซึ่งมีผลเสียต่ออันดับของเว็บไซต์


3. ผลกระทบของ Negative SEO

การใช้ Negative SEO อาจมีผลกระทบที่รุนแรงต่อเว็บไซต์เป้าหมาย โดยเฉพาะหากเว็บไซต์นั้นๆ เป็นเว็บไซต์ที่มีอันดับสูงใน Google ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:

3.1 การลดอันดับในผลการค้นหา

เว็บไซต์ที่เป็นเป้าหมายของ Negative SEO อาจสูญเสียอันดับในผลการค้นหาของ Google เนื่องจากการใช้เทคนิคที่ไม่เป็นธรรมในการสร้างลิงก์ หรือการโจมตีด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถปรากฏในหน้าแรกของผลการค้นหาได้อีก

3.2 การโดนลงโทษจาก Google (Google Penalty)

Google มีการใช้ระบบ Google Penalty เพื่อลงโทษเว็บไซต์ที่มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการใช้ Black Hat SEO หรือการใช้ Negative SEO หาก Google พบว่าเว็บไซต์มีลิงก์ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือมีการปรับแต่งที่ผิดปกติ เว็บไซต์นั้นอาจถูกลงโทษและอันดับของเว็บไซต์จะตกลงมา

3.3 ความเสียหายด้านความน่าเชื่อถือ

การโจมตีด้วย Negative SEO อาจทำให้เว็บไซต์นั้นๆ สูญเสียความน่าเชื่อถือจากผู้ใช้ โดยเฉพาะหาก Google ลงโทษเว็บไซต์และทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องได้ การสูญเสียความน่าเชื่อถืออาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างเว็บไซต์และลูกค้าในระยะยาว


4. การป้องกัน Negative SEO

การป้องกัน Negative SEO เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยการใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อตรวจจับและป้องกันการโจมตีของ Negative SEO ที่อาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ของคุณ

4.1 การตรวจสอบ Backlinks

การตรวจสอบ Backlinks อย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน Negative SEO โดยใช้เครื่องมือเช่น Google Search Console, Ahrefs, หรือ SEMrush เพื่อดูว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับ Backlinks จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ หากพบลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเป็นสแปม ควรติดต่อเจ้าของเว็บไซต์เหล่านั้นเพื่อให้ลบลิงก์ออก

4.2 การติดตามลิงก์เสีย

การตรวจสอบลิงก์เสียในเว็บไซต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถพบปัญหาของลิงก์ที่อาจทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีปัญหาทางเทคนิค ซึ่งจะส่งผลต่อการจัดอันดับ

4.3 การเสริมสร้างความปลอดภัยของเว็บไซต์

การเสริมสร้างความปลอดภัยของเว็บไซต์จะช่วยป้องกันการโจมตีด้านความปลอดภัย เช่น การใช้ SSL Certificate, การอัปเดตระบบและซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ, และการใช้ Firewall เพื่อป้องกันการแฮกเว็บไซต์

4.4 การใช้ Disavow Tool ของ Google

หากพบลิงก์ที่ไม่เหมาะสมหรือสแปมที่ชี้ไปยังเว็บไซต์ของคุณ Google มีเครื่องมือ Disavow Links Tool ซึ่งช่วยให้คุณสามารถบอก Google ว่าไม่ต้องพิจารณาลิงก์เหล่านั้นในการจัดอันดับ


5. สรุป

Negative SEO คือการใช้กลยุทธ์ที่ไม่เป็นธรรมเพื่อทำลายอันดับของเว็บไซต์คู่แข่งในผลการค้นหาของ Google โดยการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การสร้าง Backlinks ที่มีคุณภาพต่ำ, การโจมตีด้านความปลอดภัย, หรือการทำ Duplicate Content วิธีเหล่านี้สามารถทำให้เว็บไซต์คู่แข่งสูญเสียอันดับหรือโดนลงโทษจาก Google

การป้องกัน Negative SEO จำเป็นต้องมีการตรวจสอบ Backlinks อย่างสม่ำเสมอ, ตรวจสอบลิงก์เสีย, เสริมสร้างความปลอดภัยของเว็บไซต์, และใช้เครื่องมือ Disavow Links ของ Google เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีเหล่านี้

img

If you change this, an email will be sent at your new address to confirm it. The new address will not become active until confirmed.

Comments are closed