Google Trends คืออะไร?
Google Trends เป็นเครื่องมือฟรีที่ถูกพัฒนาโดย Google เพื่อช่วยในการติดตามแนวโน้มการค้นหาของผู้ใช้บน Google Search ในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยการแสดงผลการค้นหาในรูปแบบกราฟที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการค้นหาในแต่ละคำค้นหาหรือคำสำคัญในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อดูว่าแนวโน้มการค้นหาของคำค้นหาที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคต่าง ๆ หรือในแต่ละประเทศเป็นอย่างไร
Google Trends เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนัก SEO เนื่องจากมันช่วยให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการค้นหาของผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยในการเลือกคำหลัก (keywords) ที่เหมาะสมและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในบทความนี้เราจะมาดูว่า Google Trends คืออะไร, ทำงานอย่างไร, และทำไมมันจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนัก SEO ในปี 2025
1. วิธีการทำงานของ Google Trends
Google Trends ใช้ข้อมูลจากการค้นหาผ่าน Google Search เพื่อแสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำหลักที่คุณเลือก โดยเครื่องมือจะแสดงกราฟที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการค้นหาตามเวลา พร้อมกับแสดงข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
1.1 การเปรียบเทียบคำค้นหา
Google Trends ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบปริมาณการค้นหาของคำหลักสองคำขึ้นไปในช่วงเวลาที่กำหนด ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเปรียบเทียบคำหลัก “SEO” กับ “digital marketing”, คุณสามารถเห็นว่าในช่วงเวลาที่เลือกคำไหนมีการค้นหามากกว่ากัน
1.2 การแสดงข้อมูลในรูปแบบกราฟ
ผลลัพธ์ที่ได้จาก Google Trends จะถูกแสดงในรูปแบบกราฟที่ช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการค้นหาตามช่วงเวลา โดยการใช้กราฟนี้คุณสามารถวิเคราะห์ได้ว่าเมื่อไหร่ที่คำค้นหานั้น ๆ ได้รับความนิยมสูงสุด และหากมีการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มการค้นหา
1.3 การวิเคราะห์ข้อมูลตามภูมิภาค
Google Trends ยังช่วยให้คุณสามารถเห็นการค้นหาตามภูมิภาคหรือประเทศต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าแนวโน้มการค้นหาของคำค้นหานั้นมีความนิยมในพื้นที่ใดบ้าง นี่เป็นประโยชน์อย่างมากในการทำ Local SEO หรือในการวางกลยุทธ์การตลาดในตลาดเฉพาะ
1.4 แสดงคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง
เครื่องมือยังสามารถแสดงคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำหลักที่คุณค้นหา ซึ่งจะช่วยให้นัก SEO สามารถเห็นความสัมพันธ์ของคำค้นหาที่มีแนวโน้มการค้นหาที่เกี่ยวข้องกัน และใช้ในการปรับกลยุทธ์การทำ SEO ได้
2. ทำไม Google Trends ถึงสำคัญสำหรับนัก SEO?
Google Trends เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับนัก SEO เนื่องจากสามารถช่วยในการทำความเข้าใจแนวโน้มของผู้ใช้และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับใช้ในกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือเหตุผลที่ Google Trends เป็นเครื่องมือที่ไม่ควรมองข้าม
2.1 การเลือกคำหลัก (Keyword Selection)
Google Trends ช่วยในการเลือกคำหลักที่เกี่ยวข้องและมีความนิยมในเวลานั้น ๆ ด้วยการเห็นปริมาณการค้นหาในกราฟทำให้สามารถเลือกคำหลักที่ดีที่สุดสำหรับการทำ SEO ได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และต้องการเลือกคำหลักเกี่ยวกับ “ทัวร์ญี่ปุ่น” Google Trends จะช่วยให้คุณเห็นว่าในช่วงเวลานั้นคำนี้มีการค้นหามากน้อยแค่ไหนและเปรียบเทียบกับคำที่เกี่ยวข้อง เช่น “ทัวร์เกาหลี” หรือ “ทัวร์ยุโรป”
2.2 การวิเคราะห์แนวโน้มของคำค้นหาหลังการอัปเดต
การอัปเดต Google Algorithm ในแต่ละปีส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการค้นหาของผู้ใช้ Google Trends จะช่วยให้นัก SEO สามารถเห็นว่าในช่วงที่เกิดการอัปเดตนั้นคำค้นหาไหนได้รับความนิยมสูงขึ้นหรือกลายเป็นคำค้นหาที่ใช้มากขึ้น เช่น คำที่เกี่ยวข้องกับ Core Web Vitals, Mobile-First Indexing, หรือ BERT ในปี 2025
2.3 การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้
ด้วย Google Trends, คุณสามารถเห็นแนวโน้มการค้นหาที่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลหรือเหตุการณ์สำคัญ เช่น การค้นหาคำว่า “ของขวัญปีใหม่” ในช่วงปลายปี หรือคำค้นหา “ดีไซน์เว็บไซต์” ในช่วงการเปลี่ยนแปลงของ Google Algorithm ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ SEO ของคุณให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงนี้
2.4 การเพิ่มความสามารถในการทำ Local SEO
Google Trends เป็นเครื่องมือที่ดีในการทำ Local SEO เนื่องจากมันช่วยให้คุณเห็นว่าคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณได้รับความนิยมในภูมิภาคหรือประเทศใดบ้าง การใช้ข้อมูลจาก Google Trends จะช่วยให้คุณสามารถวางกลยุทธ์ SEO ที่เหมาะสมกับพื้นที่หรือกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
3. วิธีการใช้ Google Trends สำหรับ SEO
การใช้ Google Trends อย่างมีประสิทธิภาพในการทำ SEO สามารถทำได้ดังนี้
3.1 การเปรียบเทียบคำค้นหา
คุณสามารถใช้ Google Trends เพื่อเปรียบเทียบคำค้นหาหลายคำในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นว่าคำไหนที่มีการค้นหามากกว่าในช่วงเวลานั้น ๆ และเลือกใช้คำที่มีแนวโน้มการค้นหาที่สูง
3.2 การค้นหาคำที่เกี่ยวข้อง
เมื่อคุณค้นหาคำค้นหาใน Google Trends, เครื่องมือจะเสนอคำค้นหาที่เกี่ยวข้องที่มีการค้นหาคล้ายคลึงกัน ซึ่งช่วยให้คุณขยายการค้นหาคำหลัก (keywords) และเพิ่มโอกาสในการเพิ่มการมองเห็นใน SERP
3.3 การตั้งเวลาในการดูแนวโน้ม
เครื่องมือ Google Trends ช่วยให้คุณตั้งค่าเวลาในการดูแนวโน้มการค้นหาของคำหลัก โดยสามารถดูข้อมูลได้ตั้งแต่ 1 วัน, 7 วัน, 30 วัน, หรือมากกว่านั้น ทำให้คุณสามารถดูการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาได้
3.4 การปรับกลยุทธ์ตามภูมิภาค
การใช้ Google Trends จะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ Local SEO ของคุณให้เหมาะสมกับคำค้นหาที่ได้รับความนิยมในพื้นที่หรือประเทศต่าง ๆ
4. ประโยชน์ของการใช้ Google Trends สำหรับนัก SEO
4.1 การเลือกคำหลักที่ตอบโจทย์ผู้ใช้
การเลือกคำหลักที่มีการค้นหามากในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการติดอันดับใน SERP และดึงดูดผู้ใช้จากคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง
4.2 ปรับกลยุทธ์ SEO ตามการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
Google Trends ช่วยให้คุณสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของคำค้นหาต่าง ๆ ตามฤดูกาลหรือเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งทำให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ SEO ให้เหมาะสมกับแนวโน้มในเวลานั้น ๆ
4.3 การวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายประเทศ
การใช้ Google Trends ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์คำค้นหาจากหลายประเทศ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการทำ International SEO หรือ Multilingual SEO
5. สรุป
Google Trends เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนัก SEO ในการวิเคราะห์แนวโน้มการค้นหาของผู้ใช้และเลือกคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปรับกลยุทธ์การทำ SEO ให้เหมาะสมในปี 2025 การใช้ Google Trends ในการวิเคราะห์คำค้นหาหลายคำ, การค้นหาคำที่เกี่ยวข้อง, และการทำ Local SEO จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google
แหล่งข้อมูลที่น่าสนใจ
Comments are closed