Nofollow link คือการใช้คุณสมบัติ rel=”nofollow” ในลิงก์ (hyperlink) เพื่อบอกให้เครื่องมือค้นหา เช่น Google ไม่ต้องติดตาม (crawl) หรือนับการเชื่อมโยงจากลิงก์นั้นเมื่อทำการจัดอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหา การใช้ลิงก์ nofollow จึงหมายถึงการแจ้งให้ Google หรือเครื่องมือค้นหาทราบว่าไม่ควรให้ความสำคัญกับลิงก์นั้นในแง่ของการจัดอันดับ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกันการส่งผลกระทบจากลิงก์ที่ไม่ควรได้รับการพิจารณา
การใช้ nofollow ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการควบคุมการทำงานของ SEO และป้องกัน Spammy Links หรือ Backlink ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบหรือไม่ได้มีคุณภาพสูงจากการใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม (เช่น Black Hat SEO) ซึ่งอาจทำให้การจัดอันดับของเว็บไซต์นั้น ๆ ถูกจัดอันดับสูงขึ้นโดยไม่เหมาะสม
ในบทความนี้, เราจะอธิบายว่า nofollow link คืออะไร, ความสำคัญของมันในแง่ของ SEO, การใช้ nofollow link เพื่อป้องกันการสแปมได้จริงหรือไม่, และทำไมมันถึงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการจัดการกับลิงก์ที่ไม่ต้องการหรือไม่เหมาะสมใน SEO
1. Nofollow Link คืออะไร?
Nofollow link คือการใช้คุณสมบัติ HTML ที่มีชื่อว่า rel=”nofollow” ซึ่งถูกเพิ่มในลิงก์ที่คุณต้องการบอกให้ Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ไม่ให้ติดตามหรือนับการเชื่อมโยงจากลิงก์นั้นในการคำนวณการจัดอันดับ (ranking) ในผลการค้นหา Google จะไม่ถือว่า nofollow link เป็นลิงก์ที่มีค่าหรือสามารถถ่ายทอดความสำคัญ (link juice) ไปยังเว็บไซต์ที่ถูกเชื่อมโยง
การใช้ rel=”nofollow” จะบอก Google ให้หลีกเลี่ยงการนับลิงก์นั้นในการคำนวณอันดับ ซึ่งหมายความว่าเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผ่านลิงก์ nofollow จะไม่ได้รับประโยชน์ในการปรับอันดับจากการเชื่อมโยงนั้น เช่น ถ้ามีเว็บไซต์ X ส่งลิงก์ไปยังเว็บไซต์ Y โดยใช้ nofollow link, Google จะไม่พิจารณาลิงก์นี้ในการคำนวณอันดับของเว็บไซต์ Y
การใช้ลิงก์ nofollow มีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ลิงก์ในเชิงการทำ SEO ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ หรือไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือบริบทของเว็บไซต์
2. Nofollow Link มีความสำคัญอย่างไรใน SEO?
การใช้ nofollow link ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการควบคุมการเชื่อมโยง (link building) และช่วยลดปัญหาจากการใช้ backlinks ที่ไม่เป็นธรรมชาติหรือลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือใน SEO โดยการเพิ่ม nofollow ไปที่ลิงก์เหล่านี้จะทำให้ Google ไม่พิจารณาลิงก์เหล่านั้นในการคำนวณ PageRank หรือ Domain Authority (DA) ของเว็บไซต์ที่ได้รับลิงก์นั้น
2.1 ป้องกันการใช้เทคนิค Black Hat SEO
การใช้ nofollow link สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ได้รับลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือจากการใช้เทคนิค Black Hat SEO เช่น spammy backlinks, link farms, หรือการซื้อ backlinks ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกลงโทษจาก Google และลดอันดับในผลการค้นหา
การใช้ nofollow link เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ของคุณถูกจับได้ว่ามีการใช้กลยุทธ์ที่ผิดกฎหมายในการทำ SEO ซึ่งอาจทำให้คุณสูญเสียอันดับใน Google หรือแม้แต่ถูกแบนจากผลการค้นหาทั้งหมด
2.2 การควบคุมการกระจายลิงก์ (Link Juice)
Link Juice คือการถ่ายทอดความเชื่อมั่นหรือพลังจากลิงก์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่ง การใช้ nofollow link ช่วยให้คุณสามารถควบคุมลิงก์ที่ไม่ต้องการไม่ให้มีการส่ง Link Juice หรือการถ่ายทอดความสำคัญจากเว็บไซต์ของคุณไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่เหมาะสมกับเนื้อหาของเว็บไซต์
โดยการทำเช่นนี้, คุณสามารถป้องกันไม่ให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีลิงก์ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือสแปมซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์ถูกลดอันดับในผลการค้นหาหรือสูญเสียความน่าเชื่อถือ
2.3 ลดความเสี่ยงจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
การเพิ่ม nofollow link ไปยังลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือที่อาจมีเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ เช่น การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่เป็นสแปม, เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย หรือเว็บไซต์ที่ใช้เทคนิค SEO ที่ไม่ถูกต้อง ช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเชื่อมโยงเหล่านั้น
3. การใช้ Nofollow Link ป้องกัน Spam ได้จริงหรือไม่?
การใช้ nofollow link มีประโยชน์ในการป้องกัน spammy links โดยเฉพาะในบริบทของ SEO การเพิ่ม nofollow ไปที่ลิงก์ที่ไม่ควรได้รับการพิจารณาในการจัดอันดับช่วยให้ Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ไม่ให้ความสำคัญกับลิงก์เหล่านั้นในแง่ของการคำนวณอันดับ
3.1 การป้องกัน Spammy Links
Spammy Links คือ Backlinks ที่ได้มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือเว็บไซต์ที่ใช้เทคนิคการทำ SEO ที่ผิดกฎหมาย เช่น การซื้อ Backlinks หรือการใช้ Link Farms (กลุ่มเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงลิงก์ซึ่งกันและกันเพื่อเพิ่มอันดับ) การใช้ nofollow ที่ลิงก์จากเว็บไซต์เหล่านี้ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณไม่ต้องรับความเสี่ยงจาก Spammy Links ที่อาจส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณถูกลดอันดับหรือถูก Google ลงโทษ
3.2 การใช้ Nofollow กับความคิดเห็นในเว็บไซต์
อีกหนึ่งการใช้ nofollow link คือการใช้ในความคิดเห็นหรือฟอรั่มออนไลน์ที่มีลิงก์ที่อาจเป็นสแปมหรือไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ การใช้ nofollow ที่ลิงก์ในความคิดเห็นจะช่วยให้ Google ไม่พิจารณาลิงก์เหล่านั้นในการจัดอันดับ ทำให้เว็บไซต์ของคุณไม่ถูกลดอันดับจากการใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสมในการทำ SEO
4. ตัวอย่างการใช้ Nofollow Link ในการป้องกัน Spam
4.1 ความคิดเห็นบนบล็อกและฟอรั่ม
ในการโพสต์ความคิดเห็นในบล็อกหรือฟอรั่ม, การใช้ nofollow link สำหรับการเชื่อมโยงลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณหรือเว็บไซต์อื่น ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ Google ให้ความสำคัญกับลิงก์เหล่านั้นในแง่ของ SEO โดยไม่ต้องให้ความสำคัญต่อเว็บไซต์ที่ใช้เทคนิค Spam หรือที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
4.2 ลิงก์ในบทความโฆษณา
การใช้ nofollow link ในบทความที่มีการโฆษณาหรือโปรโมตสินค้า หรือบริการ จะช่วยให้ Google รู้ว่าลิงก์เหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของเว็บไซต์ และไม่ควรนับในการคำนวณ PageRank หรือ Domain Authority ของเว็บไซต์ที่ถูกเชื่อมโยง
4.3 การใช้ Nofollow ในการเชื่อมโยงจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
หากคุณต้องการเชื่อมโยงไปยังแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่สแปมหรือเป็นเทคนิค SEO ที่ผิดกฎหมาย การใช้ nofollow link ในลิงก์เหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ Google นับการเชื่อมโยงนั้นในการจัดอันดับ
5. สรุป
Nofollow link เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำ SEO โดยเฉพาะในการป้องกัน Spammy Links และการปกป้องเว็บไซต์จากการใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสมในการทำ SEO โดยการใช้คุณสมบัติ rel=”nofollow” ในลิงก์ที่ไม่ควรได้รับการพิจารณาในการคำนวณอันดับช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์นั้นๆ ไม่มีการใช้ Black Hat SEO หรือเทคนิคที่ผิดกฎหมายในการจัดอันดับ
การใช้ nofollow link ช่วยให้เว็บไซต์ไม่ถูกลงโทษจากการใช้ลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิด Spam ที่อาจส่งผลให้เว็บไซต์สูญเสียอันดับหรือความน่าเชื่อถือในสายตาของ Google
Comments are closed