Disavow links คืออะไร ขั้นตอนวิธีทำมีอะไรบ้าง สอนทุกรายละเอียด

  • Home
  • SEO Marketing
  • Disavow links คืออะไร ขั้นตอนวิธีทำมีอะไรบ้าง สอนทุกรายละเอียด
Disavow links คืออะไร ขั้นตอนวิธีทำมีอะไรบ้าง สอนทุกรายละเอียด

Disavow Links เป็นเครื่องมือที่ Google จัดให้สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่ต้องการปฏิเสธการนับ Backlinks ที่มีคุณภาพต่ำหรือไม่ถูกต้อง (เช่น Spammy Links หรือ Toxic Links) ซึ่งอาจมีผลเสียต่อ SEO ของเว็บไซต์ การใช้งานเครื่องมือ Disavow Links ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถบอก Google ว่าไม่ต้องพิจารณาลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเหล่านั้นเมื่อทำการจัดอันดับเว็บไซต์

การใช้ Disavow Links ถือเป็นการจัดการกับลิงก์ที่ไม่ดี (หรือที่เรียกว่าลิงก์พิษ) ที่อาจส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ใน Google SERP โดยเฉพาะหากเว็บไซต์ของคุณถูกลงโทษ (Penguin Penalty) จาก Google เนื่องจากลิงก์ที่ไม่ได้รับการดูแล

1. ทำไม Disavow Links ถึงสำคัญ?

ลิงก์ย้อนกลับ (Backlinks) มีบทบาทสำคัญใน SEO และการจัดอันดับของเว็บไซต์ใน Google แต่การได้รับลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น Link Farms, เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเว็บไซต์ที่ใช้เทคนิค Black-Hat SEO (เช่นการซื้อ Backlinks) อาจส่งผลเสียต่ออันดับของเว็บไซต์ Google มีเครื่องมือ Disavow Links ที่ช่วยให้เว็บไซต์สามารถแจ้ง Google ให้ละเว้นการคำนึงถึงลิงก์ที่มีปัญหานี้

ผลกระทบของลิงก์ที่มีคุณภาพต่ำหรือพิษ

  • ทำให้ Google ลดอันดับเว็บไซต์หรือถูกลงโทษ (Penguin Penalty)
  • เสีย link equity จากลิงก์ที่ไม่ถูกต้อง
  • ลดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ในสายตาของ Google และผู้ใช้งาน

2. วิธีการ Disavow Links?

การใช้งาน Disavow Links ของ Google เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการรักษาความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และเพิ่มอันดับใน Google นี่คือขั้นตอนวิธีการ Disavow Links ที่สามารถทำได้

ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบ Backlinks ของเว็บไซต์

ก่อนที่จะทำการ Disavow Links, คุณต้องตรวจสอบลิงก์ย้อนกลับที่เว็บไซต์ของคุณได้รับ ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ Backlinks เช่น

  • Google Search Console: คุณสามารถดู Backlinks ที่ Google ได้รับรู้จากการใช้เครื่องมือ Links ใน Google Search Console.
  • Ahrefs: เครื่องมือที่มีฟีเจอร์ในการตรวจสอบ Backlinks และสามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับลิงก์ที่เป็น Toxic Links.
  • SEMrush: อีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถใช้ตรวจสอบลิงก์ย้อนกลับที่เว็บไซต์ของคุณได้รับ.

เมื่อคุณได้ข้อมูล Backlinks ที่เว็บไซต์ของคุณได้รับแล้ว ให้ทำการประเมินแต่ละลิงก์เพื่อดูว่าเป็นลิงก์ที่มีคุณภาพหรือไม่ หากพบลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือมีคุณภาพต่ำ ควรจะทำการ Disavow ลิงก์เหล่านั้น

ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบลิงก์ที่ไม่ดี

หลังจากที่คุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับ Backlinks แล้ว ให้ตรวจสอบลิงก์ที่มีลักษณะเป็น Toxic Links หรือ Spammy Links เช่น:

  • ลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์คุณ
  • ลิงก์จาก Link Farms หรือเว็บไซต์ที่ใช้เทคนิคการสร้างลิงก์ที่ไม่ดี
  • ลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหรือวัตถุประสงค์ที่ไม่เป็นที่ยอมรับ
  • ลิงก์ที่เป็น Paid Links (ซื้อขายลิงก์)
  • ลิงก์ที่มีการใช้ Anchor Text ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นการยัดคำหลักมากเกินไป (Keyword Stuffing)

ขั้นตอนที่ 3: ติดต่อเจ้าของเว็บไซต์เพื่อลบลิงก์

หากพบลิงก์ที่ไม่ดีจากเว็บไซต์ที่คุณสามารถติดต่อได้ ให้ลองติดต่อเจ้าของเว็บไซต์นั้นเพื่อขอลบลิงก์ หากไม่ได้ผลก็สามารถใช้เครื่องมือ Disavow Links ของ Google เพื่อแจ้ง Google ว่าคุณไม่ต้องการให้ลิงก์เหล่านั้นมีผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์

ขั้นตอนที่ 4: สร้างไฟล์ Disavow

การสร้างไฟล์ Disavow เป็นการบอกให้ Google ทราบว่าคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณหลีกเลี่ยงลิงก์บางลิงก์ โดยการสร้างไฟล์ในรูปแบบ .txt ซึ่งประกอบไปด้วย URL ของลิงก์ที่ต้องการปฏิเสธ ตัวอย่างเช่น:

# Disavow Links File
domain:example.com
domain:spammysite.com
http://example.com/bad-link

คำแนะนำ

  • ใช้ # เพื่อเพิ่มคำอธิบาย
  • คุณสามารถใช้คำว่า domain: เพื่อบล็อกทั้งโดเมน
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์ Disavow ไม่มีข้อผิดพลาด เพราะการปฏิเสธลิงก์ที่ไม่จำเป็นอาจมีผลกระทบต่อ SEO ของคุณ

ขั้นตอนที่ 5: อัปโหลดไฟล์ Disavow

หลังจากที่สร้างไฟล์ Disavow แล้ว คุณสามารถอัปโหลดไฟล์ไปยัง Google Search Console โดย:

  1. ไปที่ Google Search Console
  2. เลือกเว็บไซต์ที่ต้องการจัดการ
  3. คลิกที่ Disavow Links Tool
  4. อัปโหลดไฟล์ .txt ที่คุณสร้าง

Google จะใช้ข้อมูลในไฟล์ Disavow เพื่อหลีกเลี่ยงการพิจารณาลิงก์ที่ไม่ดีในกระบวนการจัดอันดับ


3. คำแนะนำในการใช้ Disavow Links

  • ใช้ Disavow เมื่อจำเป็นเท่านั้น: Disavow Links ควรใช้เมื่อคุณพบลิงก์ที่มีคุณภาพต่ำหรือพิษที่อาจส่งผลเสียต่อ SEO ของเว็บไซต์ การใช้งาน Disavow ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากการปฏิเสธลิงก์ที่มีคุณภาพอาจส่งผลเสียต่ออันดับของเว็บไซต์
  • ตรวจสอบลิงก์ย้อนกลับอย่างสม่ำเสมอ: ควรทำการตรวจสอบ Backlinks อย่างสม่ำเสมอเพื่อหาลิงก์ที่อาจเป็นอันตรายต่อเว็บไซต์
  • หลีกเลี่ยงการใช้ Disavow ในกรณีที่ไม่จำเป็น: หากลิงก์ไม่ได้มีผลกระทบต่อเว็บไซต์มากนัก การใช้ Disavow อาจไม่จำเป็น

4. สรุป

การใช้ Disavow Links เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการจัดการลิงก์ที่มีคุณภาพต่ำหรือพิษ ซึ่งสามารถช่วยให้เว็บไซต์หลีกเลี่ยงการลงโทษจาก Google และช่วยให้ SEO มีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้ Disavow ควรทำอย่างรอบคอบและต้องตรวจสอบลิงก์ที่ได้รับจากแหล่งที่เชื่อถือได้เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ในอนาคต

แหล่งข้อมูลที่น่าสนใจ

img

If you change this, an email will be sent at your new address to confirm it. The new address will not become active until confirmed.

Comments are closed